Skip to main content

คำถามทางจริยธรรม กับล็อตเตอรี่

1. ปกติผมจะซื้อล็อตเตอรี่ไว้งวดละ ๑-๒ ใบ โดยเลขที่ซื้อประจำก็เป็นเลขวันที่วันเกิด เป็นการเปิดโอกาสกรณีดวงดี เผื่อจะถูกรางวัลกับเขาบ้าง

2.

วันนี้เดินมาแผงที่สามแล้ว ก็ยังไม่เจอเลขวันเกิดที่ต้องการ... ทำไมงวดนี้เลขนี้ดังหรืออย่างไรนะ

"มีเลข... หรือเปล่าครับ" ผมถาม

แม่ค้าเอื้อมมือไปหยิบล็อตเตอรี่ที่อยู่หลังแผงออกมาอีกปึกหนึ่ง จับเป็นชุด ชุดละ 2 ใบ

"นี่ไงเลข... มีอยู่ จะเอากี่ชุด" แม่ค้าถาม
"ขายชุดละเท่าไหร่ครับ"
"210 บาท"

อืม... ตกใบละ 105 บาท เกินราคาไปมากเลย จากที่รัฐประกาศให้ขายแค่ 80 บาท
ยืนคิดอยู่พักนึง ก็คิดว่าซื้อมาเกือบทุกงวดแล้ว อยู่ ๆ เลขวันเกิดของเราจะมาเป็นเลขดังก็กลัวจะเสียดายถ้ารางวัลออกเลขนี้

"งั้นเอาชุดนึงครับ"
3.

หยิบแบงก์ 500 บาทจ่าย รับเงินทอน พร้อมสลาก 2 ใบในมือ เดินกลับมาสมทบกับเพื่อนที่ยืนคอยอยู่ แล้วนับเงินก่อนเก็บใส่กระเป๋า

"อ้าว... แม่ค้าทอนเกินนี่" ผมเอ่ยขึ้นเตรียมจะเดินกลับไปคืนเงินที่เกิน
"เกินมาเท่าไหร่" น้องในกลุ่มถามขึ้น
"ราคา ๒๑๐ บาท จ่ายแบงก์ 500 แต่ทอนมา 320 บาท เกินมา 30 บาท" ผมคำนวณ
"ก็ตกใบละ 90 บาท... โห พี่ไม่ต้องคืนหรอก เขาขายเกินราคาอยู่แล้ว นี่ยังเกินที่กำหนดไว้อยู่เลยนะ"
"จะดีหรอ..." ผมลังเล
"เชื่อผม... ไม่ต้องให้ เขากำไรอยู่แล้ว"
4.

กลับขึ้นมาถึงออฟฟิต ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นมาคุนกันในกลุ่ม บางคนเห็นว่าไม่ต้องคืนเพราะเขาขายเกินราคา

ในขณะที่บางคนบอกว่าควรคืน เพราะเรายอมรับที่จะซื้อในราคาที่แพงกว่าแล้ว ตกลงกันได้แล้ว การที่จะมาอ้างว่าเขาขายเกินราคามันก็จะเป็นคนละวาระกัน

5.

ผมจะไม่บอกว่าได้ไปคืนเงินแม่ค้าหรือไม่ แต่อยากรู้ว่าคิดว่าอย่างไรกัน ควรคืนหรือไม่คืน?


หมายเหตุ บันทึกครั้งแรกที่ StoryLog.co - 11/01/2018

Comments

Popular posts from this blog

หลอดไฟ กับความคุ้มค่า

วันนี้ขากลับจากบ้าน ก่อนเข้าห้องก็แวะห้างหาซื้อหลอดไฟนีออน (หลอดยาว) ไปเปลี่ยนที่ห้อง เพราะหลอดเก่าเริ่มกระพริบ และแสงไม่สว่างแล้ว ก็ไปเจอหลอดผอมราคา 75 บาท แต่ก็หันไปเห็นหลอดแบบใหม่แอลอีดี เลยถามพนักงานมันดีกว่าอย่างไร ประหยัดไฟกว่า สว่างกว่า ทนกว่า แสงนิ่ง ไม่กระพริบ (ลองเอากล้องมือถือส่องดูได้) อืม..น่าสนใจ ถามราคา 269 บาทค่ะ วันนี้ผมเดินกลับพร้อมหลอดผอมราคา 75 บาท หมายเหตุ บันทึกครั้งแรกที่ StoryLog.co - 18/11/2018

จันทร์สุดท้ายของปี ๒๕๖๐

วันจันทร์วันสุดท้ายของปีนี้... ก็ยังมาทำงานอยู่ แต่ก็เหมือนกับทุกปีที่ช่วงปลายเดือนธันวาคมจะมีอารมณ์ชิวๆ วันนี้อากาศกลับมาเย็นๆ อีกครั้ง แต่ไม่ถึงกับหนาว ก็ประมาณ ๒๓ องศาในตอนเช้า ถือว่าสบายๆ ...ขอโทษนะ... วันนี้เจอพี่ HR ที่หน้าลิฟต์ ก็ยิ้มให้และทักทายตามปกติ ก็เป็นการเจอกันครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ "พี่...ขอโทษนะ" "อ๋อ...ไม่เป็นไรครับ" ก็ไม่รู้ว่าจะไม่พอใจต่อไปทำไม ถึงแม้ว่าจะจัดการเหตุการณ์ได้แบบไม่ใช่มืออาชีพ กับเรื่องที่รายชื่อทีม IT Development หายไปจากการจับฉลากงานปีใหม่ทั้งทีม โดยไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ หรือคำขอโทษ ณ เวลานั้นก็ตาม บางทีการที่เคยทำงานสโมสรนิสิตคณะฯ มาก็ทำให้เข้าใจคนทำงานมากขึ้นเหมือนกันนะ ความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่ใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การจัดการปัญหาเฉพาะหน้ามันก็ควรจะดีกว่านี้... ...Merry Christmas... เมืองไทยนี้ก็ดี จัดงานได้ทุกเทศกาล แม้จะไม่ใช่คนในศาสนานั้นๆ คงอย่างที่เคยได้ยินว่า "คนไทยรักสนุก"... แต่เชื้อชาติอื่นเราว่าก็น่าจะเหมือนกันนะ... ใครจะไม่ชอบความสนุกกันล่ะ จะว่าไปวันนี้ไปฉลองวันคร

ทำบุญวันสงกรานต์ และอัลปาก้า | Songkran Festival and Alpacas!

🎵 ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้อง ทำนองเพลงโทน โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆ ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ 🎵 "เพลงรำวงสงกรานต์" วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ผ่านไปแล้ว พร้อมทำงานแล้ว (ใช่หรอออ) ---------------- ช่วงสงกรานต์ก็ได้ไปทำบุญที่วัดแช่ไห ราชบุรี หลังจากไปทำบุญช่วงกลางวันก็เลยไปหาอะไรกินกัน เลยไปกันที่ "อัลปาก้า ราชบุรี" การเดินทางก็ไปง่ายๆ จากกรุงเทพฯ มาทางเส้นเพชรเกษม เมื่อถึงแยกบางแพ ก็เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.โพธาราม ก่อนถึงวงเวียนแรก ก็จะเห็นป้ายร้านอัลปาก้าทางซ้ายมือ จากนั้นก็ตามป้ายไปเลย อาหารราคาไม่ถือว่าแพงมาก เมื่อเทียบกับอาหาร และบริการ เราไปกัน 4 คน มื้อนั้นก็จ่ายไป 1,304 บาท กินเสร็จก็ได้เวลาไปดูอัลปาก้าแล้ววว ซึ่งมันอยู่ในห้องแอร์!! หรูไปอีกกก จ่ายค่าแครอทไป 40 บาท ก็จะเข้าห้องไปลูบๆ จับๆ ตัวได้ 555+ แม่ลองจับดูแล้วบอกว่า ขนนุ่มมากกกกกก ใครผ่านมาแถวราชบุรี แนะนำให้มาลองดูกันที่นี่นะ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง แถมมีอัลปาก้าให้ดูด้วย **************** 🎵 far mai leaw l